รีวิวหนังสือ: แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน
ถ้าผมเคยให้แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 10 คะแนน หนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน ก็ควรได้ 11 คะแนนอย่างไม่มีข้อแม้ นี่คือหนังสือแฟนตาซีที่ดีที่สุดที่ผมเคยอ่านมาถึงตอนนี้ แม้อาจจะมีโอกาสโดนล้มแชมป์ถ้าผมอ่านถึงภาค 7 แล้วก็ตาม ความรู้สึกหลังอ่านคือเนื้อหามีรายละเอียดลึกซึ้งขึ้นมาก ราวกับว่าเวอร์ชันหนังที่เคยดูนั้นเป็นแค่ภาพตัวอย่างเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องราวเต็ม ๆ ของโลกเวทมนตร์ที่แท้จริง และนี่คือเหตุผลว่าทำไมภาคนี้ถึงพิเศษจนอยากหยิบมาเล่า
*คำเตือนสำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่าน อาจมีสปอยเล็กน้อย แต่จะพยายามเลี่ยงไม่เฉลยจุดสำคัญ
เนื้อเรื่อง
แฮร์รี่ พอตเตอร์กลับสู่ฮอกวอตส์เป็นปีที่สาม โดยมีเหตุการณ์ใหญ่ที่สั่นสะเทือนทั้งโลกเวทมนตร์รออยู่ ซีเรียส แบล็ค นักโทษสุดอันตรายได้หลบหนีออกจากคุกอัซคาบันอย่างลึกลับ และดูเหมือนจะมีเป้าหมายอยู่ที่แฮร์รี่โดยตรง เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ผู้คุมวิญญาณจึงถูกส่งมาตรึงสถานการณ์ แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งมีชีวิตพวกนี้นำความเย็นเยียบและความกลัวมาสู่ฮอกวอตส์ โดยเฉพาะกับแฮร์รี่ที่ต้องเผชิญกับอดีตอันเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือการเปิดตัวตัวละครใหม่อย่างศาสตราจารย์ลูปิน ผู้สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ซึ่งไม่ได้เก่งแค่ในวิชา แต่ยังเข้าใจนักเรียน และเป็นอาจารย์ที่น่ารักที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ฮอกวอตส์เคยมี เขาก็มีความลับที่ค่อย ๆ เผยออกมาอย่างแนบเนียน นอกจากนี้ เฮอร์ไมโอนี่เองก็มีบทบาทที่แปลกตา เธอวุ่นวายกว่าปีอื่น ๆ มาก จนชวนให้สงสัยว่าเธอมีวิธีจัดการกับตารางเรียนแน่นขนาดนั้นได้อย่างไร
การเล่าเรื่อง
สิ่งที่ทำให้ภาคนี้แตกต่างจากสองเล่มแรกคือความซับซ้อนของโครงเรื่อง ทุกเหตุการณ์มีสาเหตุรองรับอย่างชัดเจน การตัดสินใจของตัวละครมีที่มาและมีน้ำหนัก ไม่ใช่เพียงแค่เดินเรื่องไปตามความรู้สึกหรือความบังเอิญ ผู้เขียนอย่าง J.K. Rowling ได้ทิ้งเบาะแสไว้ตลอดทาง หลายคำพูดจากตัวละครที่ดูธรรมดาในตอนแรก กลับกลายเป็นคำใบ้สำคัญเมื่อกลับมาอ่านซ้ำ เหมือนเราได้เล่นเกมปริศนาในแต่ละหน้า และทุกชิ้นจิ๊กซอว์ที่วางไว้ก็จะมาประกอบกันอย่างสมบูรณ์ในตอนท้าย
ตัวละคร
แม้ว่าแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่จะยังเป็นศูนย์กลางของเรื่อง แต่ภาคนี้ตัวละครใหม่และเก่าหลายคนกลับมีบทบาทจนโดดเด่นขึ้นมา ซีเรียส แบล็ค คือหนึ่งในนั้น เขาทั้งลึกลับ อันตราย และเต็มไปด้วยเรื่องที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย ในขณะเดียวกัน รีมัส ลูปิน ก็เป็นตัวแทนของความเข้าใจ ความอ่อนโยน และการยอมรับในตัวตนที่แตกต่าง การเปิดตัวตัวละครอย่างโช แชง และเซดริก ดิกกอรี่ แม้จะยังไม่ได้มีบทบาทหลัก แต่ก็สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตวัยรุ่นของแฮร์รี่ได้ดี
การเผชิญหน้าความกลัว
ผู้คุมวิญญาณในภาคนี้ไม่ใช่แค่ภัยคุกคามทางกายภาพ แต่ยังเป็นภาพแทนของความกลัวในจิตใจลึก ๆ ของแฮร์รี่เอง ฉากที่เขาใช้คาถาผู้พิทักษ์จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่แสดงถึงการเติบโต ทั้งในแง่ความสามารถและความกล้าหาญที่เกิดจากภายใน ไม่ใช่เพียงการเผชิญหน้ากับศัตรูเท่านั้น แต่คือการเผชิญหน้ากับตัวเองอย่างแท้จริง
เบื้องหลังของสเนป
ศาสตราจารย์สเนปในภาคนี้ดูจะมุ่งมั่นเป็นพิเศษในการตามจ้องจับผิดแฮร์รี่ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็เริ่มเห็นเบื้องหลังบางอย่างที่บ่งบอกว่าเขาไม่ได้เกลียดแฮร์รี่เพียงเพราะอารมณ์ส่วนตัว แต่มีเหตุผลลึกซึ้งที่โยงไปถึงอดีตของเขาและพ่อของแฮร์รี่ด้วย ความสัมพันธ์นี้กลายเป็นอีกหนึ่งเส้นเรื่องที่น่าสนใจ และจะขยายผลต่อไปในเล่มถัด ๆ ไปอย่างแน่นอน
หนังสือเวอร์ชันฉลองครบรอบ 20 ปี
ผมอ่านเวอร์ชันครบรอบ 20 ปีของเล่มนี้ และต้องขอชมว่าดีไซน์และลูกเล่นของหนังสือช่วยยกระดับประสบการณ์การอ่านได้มาก มีการเปลี่ยนฟอนต์ให้ตรงกับลายมือของตัวละครเวลามีจดหมาย ซึ่งเพิ่มความสมจริงและทำให้รู้สึกเหมือนเราได้อ่านบันทึกจากตัวละครจริง ๆ การแปลชื่อของกลุ่มมารอดเดอร์ในเวอร์ชันภาษาไทยก็ทำได้ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นนายจันทร์เจ้า หางหนอน เท้าปุย หรือเขาแหลม ทุกชื่อมีความไพเราะและลื่นหูจนทำให้อยากย้อนกลับไปอ่านซ้ำอีกหลายรอบ
บทสรุป
ผมให้คะแนนภาคนี้ 11 เต็ม 10 ไม่ใช่เพียงเพราะความสนุก แต่เพราะตอนจบที่อบอุ่นและเปี่ยมไปด้วยความหวัง มันทำให้เรารู้ว่าแฮร์รี่ไม่ใช่แค่เด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง แต่ยังมีคนที่รักและพร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาอย่างแท้จริง การวางพล็อตในตอนท้ายยังเปิดทางไปสู่ภาคต่อได้อย่างน่าติดตาม โดยเฉพาะคำทำนายลับที่ยังรอการเปิดเผย และทำให้ผู้อ่านอย่างผมต้องหยิบภาคถัดไปมาอ่านต่อทันที
ชื่อเรื่อง: แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน
ผู้เขียน: J.K. Rowling
สำนักพิมพ์: Nanmeebooks
ประเภท: แฟนตาซี
จำนวนหน้า: 448 หน้า
พิกัดซื้อ: https://s.shopee.co.th/xvTY6nkE
RELATED POSTS
