สี่อาชญากร: นักสืบหนวดงามปะทะองค์กรวายร้ายระดับโลก
“ครั้งนี้นักสืบของเราไม่ได้รับมือกับอาชญากรธรรมดา แต่เป็นองค์กรที่รวมตัวอาชญากรวายร้ายระดับโลก”
นี่คือประโยคที่อธิบาย สี่อาชญากร ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะนี่ไม่ใช่คดีฆาตกรรมแบบในคฤหาสน์ หรือการปริศนาห้องปิดตายบนรถไฟ แต่คือการต่อสู้กับกลุ่มผู้บงการโลกในเงามืด ที่จะท้าทายแอร์กูล ปัวโรต์เกินกว่าครั้งไหน ๆ
คดีเริ่มต้นที่หน้าประตู แล้วลุกลามจนไปถึงระดับโลก
เมื่อเฮสติงส์เดินทางกลับจากอเมริกาใต้โดยไม่บอกใครล่วงหน้า เขาคิดว่าจะมาเซอร์ไพรส์ปัวโรต์ เพื่อนเก่านักสืบผู้หนวดงามของเขา แต่คนที่เซอร์ไพรส์จริงกลับไม่ใช่เฮสติงส์ เพราะมีชายแปลกหน้าร่างผอมโทรมยืนอยู่หน้าห้องปัวโรต์ ชายคนนั้นพูดไม่ออกสักคำ ก่อนจะล้มลงต่อหน้าทั้งคู่ พร้อมทิ้งไว้เพียงแผ่นกระดาษที่มีเลข “4” ขีดซ้ำไปซ้ำมา จากเหตุการณ์เล็ก ๆ นี้ ปัวโรต์และเฮสติงส์ได้เข้าสู่วังวนของปริศนา และพบว่ามีองค์กรลับอยู่เบื้องหลังแผนการร้ายที่ส่งผลต่อโลกทั้งใบ องค์กรนี้มีสมาชิกหลักสี่คน ได้แก่:
นักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลจากจีน
มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน
นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส
นักฆ่าผู้เชี่ยวชาญด้านการปลอมตัว
ปัวโรต์ต้องตามสืบจากจุดเล็กที่สุด ลามไปสู่เบื้องหลังระดับประเทศ การลอบสังหาร การล้วงข้อมูล ความพยายามในการล่มรัฐบาล ฯลฯ ทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมด และเมื่อเขารู้ตัวว่าเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น เขาก็กลายเป็นเป้าหมายเสียเอง
ปัวโรต์ในบทบาทสายลับ
The Big Four แตกต่างจากเล่มอื่นของอกาธา คริสตี้อย่างเห็นได้ชัด นี่ไม่ใช่ “นิยายฆาตกรรมคลาสสิก” แบบที่แฟน ๆ คุ้นเคย ไม่มีการนั่งวิเคราะห์ในห้องนั่งเล่น หรือเชิญผู้ต้องสงสัยมารวมตัวกันเพื่อเฉลยคดี แต่นี่คือเรื่องราวที่มีจังหวะเร็ว เต็มไปด้วยฉากการไล่ล่า การหลอกลวง การพรางตัว และเกมจิตวิทยา
แอร์กูล ปัวโรต์ที่เราคุ้นเคยในบทบาทนักสืบผู้ชาญฉลาดและรักความสมบูรณ์แบบ ต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นสายลับเต็มตัว ออกเดินทางไปหลายประเทศ รับมือกับอาชญากรที่แทบจะไม่มีร่องรอยให้จับต้องได้ และต้องคอยระวังทุกฝีก้าวเพราะศัตรูของเขาอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด
องค์กรลับสุดอันตราย
ความน่าสนใจของ The Big Four คือมันพาเราออกจากโลกของ “คดีเล็ก” แล้วก้าวสู่โลกของ “คดีใหญ่” ที่เกี่ยวพันกับอำนาจระหว่างประเทศ ผู้อ่านจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเรื่องราวของ James Bond หรือ Mission: Impossible แต่นำเสนอผ่านสายตาของนักสืบชาวเบลเยียมที่ระเบียบจัดยิ่งกว่าสิ่งไหน
องค์กร The Big Four ถูกวางบทบาทให้เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ของอาชญากรรมระดับโลก แต่ละคนมีหน้าที่เฉพาะ และไม่มีใครสามารถเอาชนะพวกเขาได้แบบลำพัง ปัวโรต์จึงต้องใช้ทั้งไหวพริบ ความอดทน และความร่วมมือจากเฮสติงส์ เพื่อหาวิธีจัดการกับกลุ่มคนนี้
สายลับ > สืบสวน
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผู้อ่านบางคนรู้สึกไม่คุ้นเคยกับ The Big Four คือโทนของเรื่องที่ไม่เหมือนเล่มอื่นของอกาธา คริสตี้เลย มันไม่ใช่เรื่องราวของคดีเดียวที่ดำเนินไปเรื่อย ๆ แต่เป็นเรื่องราวของคดีหลายคดีที่เชื่อมโยงกันทั้งหมดเหมือนตอนในซีรีส์ หนังสือเล่มนี้จึงให้ความรู้สึกเป็น “ภารกิจ” มากกว่าการ “ไขคดี” และถึงแม้จะยังมีการเฉลยแบบรวบยอดในตอนท้าย แต่โฟกัสหลักอยู่ที่การต่อกรกับเครือข่ายมากกว่าการวิเคราะห์เชิงตรรกะเพียงอย่างเดียว
ถ้าคุณเป็นแฟนของปัวโรต์ และอยากเห็นเขาในบริบทใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากเดิม The Big Four คือประสบการณ์ที่น่าสนใจ ปัวโรต์ในเล่มนี้ลุยมากขึ้น ทุ่มเทมากขึ้น และต้องใช้ทักษะทั้งทางร่างกายและจิตใจมากกว่าครั้งไหน ๆ
แม้มันอาจไม่ใช่ผลงานที่ “ดีที่สุด” ของอกาธา คริสตี้ในเชิงการวางพล็อต แต่ก็เป็นหนึ่งในเล่มที่ “แหวกแนว” และพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้เขียน แต่นิยายฆาตกรรมแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมา
ชื่อเรื่อง: สี่อาชญากร
ผู้เขียน: Agatha Christie
สำนักพิมพ์: Words
ประเภท: สืบสวน
จำนวนหน้า: 200 หน้า
RELATED POSTS
