แฟรนนี่แอนด์ซูอี้: การแสวงหาความหมายของชีวิตในโลกที่เสแสร้ง
คุณเคยมีช่วงเวลาที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับทุกสิ่งรอบตัวไหม? เบื่อแม้แต่กับตัวเองที่ต้องแสดงเป็นคนที่ไม่ใช่ตัวเอง หากเคย ‘แฟรนนี่แอนด์ซูอี้’ อาจจะเป็นเพื่อนที่เข้าใจความรู้สึกนั้นได้ดีที่สุด
หนังสือเล่มนี้เป็นละครสองตอนที่เล่าเรื่องราวในครอบครัวกลาส ครอบครัวที่เต็มไปด้วยเด็กอัจฉริยะที่ต่างคนต่างมีปัญหาในแบบของตัวเอง แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของเด็กเท่านั้น แต่มันคือการหลงทางในแบบที่ทุกคนเคยพบเจอ
การล่มสลายทางจิตของน้องสาว

ตอนแรก ‘แฟรนนี่’ เล่าเรื่องของเด็กสาวนักศึกษาที่กำลังมีอาการป่วยทางใจ แต่ไม่ใช่ความป่วยแบบที่เราเข้าใจกันทั่วไป เธอป่วยเพราะเห็นความจริงของโลกรอบตัวชัดเจนเกินไป
แฟรนนี่ เธอเป็นนักศึกษาสาวที่กำลังเผชิญกับวิกฤติทางจิตวิญญาณ เธอเบื่อหน่ายกับโลกการศึกษาที่เต็มไปด้วยการแสดงออกและความจอมปลอม เบื่อหน่ายกับเพื่อนๆ ที่พูดแต่เรื่องไร้สาระ เบื่อหน่ายกับทุกสิ่งที่เคยทำให้ชีวิตเธอมีความหมาย
ขณะที่เธอนั่งกินข้าวกับแฟนหนุ่มเลน เขาเอาแต่พูดเรื่องของตัวเอง ส่วนเธอก็จะขัดเขาในทุกคำพูด ทุกการกระทำ จนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังแปลกแยกจากโลกทั้งใบ
กลางมื้ออาหารกับแฟนหนุ่ม เธอล้มป่วยอย่างฉับพลัน และเริ่มจมอยู่ในโลกของการสวดภาวนา การภาวนาในแบบที่เธอเพิ่งค้นพบจากหนังสือ “The Way of a Pilgrim” เธอเชื่อว่าการภาวนาแบบนี้จะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากโลกที่กำลังบดขยี้เธอ
การเยียวยาทางใจพี่ชาย

ส่วนตอนที่สอง ‘ซูอี้’ เป็นเรื่องของพี่ชายที่พยายามช่วยน้องสาวด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใคร ไม่ใช่ด้วยการปลอบโยนหรือการให้คำแนะนำแบบผิวเผิน แต่ด้วยการสนทนาที่เจาะลึกไปถึงหัวใจของปัญหา
ซูอี้ไม่ได้บอกแฟรนนี่ว่าเธอคิดมาก หรือบอกให้เธอลืมปัญหาไป เขาเข้าใจว่าน้องสาวของเขากำลังต่อสู้กับสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น เขารู้ว่าการแสวงหาความหมายทางจิตวิญญาณไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขด้วยคำตอบง่ายๆ
ครึ่งหลังของเรื่องที่โฟกัสไปที่ซูอี้ ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้นั่งฟังการสนทนาในครอบครัวที่มีความลึกซึ้งจริงๆ ไม่ใช่แค่การพูดคุยเรื่องงานบ้าน แต่เป็นการแลกเปลี่ยนเรื่องชีวิต ความหมาย และทิศทางของการใช้ชีวิตอยู่
ซาลินเจอร์ใช้บทสนทนาเป็นเครื่องมือหลักในการเล่าเรื่อง ซูอี้คุยกับแม่ของเขาในห้องน้ำ และต่อมากับแฟรนนี่ในห้องนั่งเล่น ทำให้เราเข้าใจตัวละครผ่านสิ่งที่พวกเขาพูดและวิธีที่พวกเขาพูด บทพูดของซูอี้กับแม่ หรือการสนทนาที่เขามีกับแฟรนนี่เต็มไปด้วยชั้นเชิงที่ตีความได้ไม่รู้จบ ทั้งจากสิ่งที่พูดออกมาและสิ่งที่ไม่ได้พูด
มุมมองของสองพี่น้อง

หลังอ่านแฟรนนี่แอนด์ซูอี้ ก็ยังหาคำตอบที่ชัดเจนให้กับตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้สอนให้เราแก้ปัญหาด้วยศาสนา ไม่ได้บอกให้เราปฏิเสธโลกภายนอก
มันเป็นหนังสือที่เหมาะกับคนที่กำลังสับสนในสิ่งที่เคยเชื่อ เหมาะกับคนที่กำลังตั้งคำถามกับความหมายของชีวิต ศาสนา หรือความทุกข์ภายในใจ ไม่ใช่เพราะมันจะให้คำตอบ แต่เพราะมันจะเป็นเพื่อนที่ดีในการเดินทางหาคำตอบของคุณ
ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเขียนขึ้นในช่วงปี 1950 แต่ปัญหาที่นำเสนอยังคงเป็นปัญหาของคนในยุคนี้ ความรู้สึกหลงทางกับชีวิต ความเบื่อหน่ายกับการแข่งขันที่ไม่มีที่สิ้นสุด การแสวงหาความหมายที่แท้จริงในโลกที่เต็มไปด้วยความเสแสร้ง
ในยุคที่โซเชียลมีเดียทำให้เรารู้สึกว่าต้องแสดงตัวเป็นคนที่ประสบความสำเร็จตลอดเวลา ในยุคที่การแข่งขันเพื่อความเป็นเลิศกลายเป็นจุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียวของชีวิต หนังสือเล่มนี้ยิ่งควรถูกหยิบขึ้นมาอ่าน
ชื่อเรื่อง: แฟรนนี่แอนด์ซูอี้
ผู้เขียน: J.D. Salinger
สำนักพิมพ์: Biblio
ประเภท: วรรณกรรม
จำนวนหน้า: 264 หน้า
ผู้เขียน: J.D. Salinger
สำนักพิมพ์: Biblio
ประเภท: วรรณกรรม
จำนวนหน้า: 264 หน้า
ในเมื่อมีเรี่ยวแรงเหลือมากพอจะสติแตก ทำไมถึงเอาเรี่ยวแรงนั้นมาทำให้ชีวิตดำเนินไปอย่างปกติสุขไม่ได้ล่ะ?
- Read Again and Agian
Facebook
X (Twitter)
Copy Link
OTHER BOOKS

ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส: คดีสร้างชื่อของ 'ปัวโรต์'
เมื่อพูดถึงนิยายสืบสวนระดับตำนาน ผมต้องบอกเลยว่า ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส (Murder on the Orient...

มีแต่ปลาทองเท่านั้นที่รู้: ราโชมอนในโลกทุนนิยม
รู้ไหมครับว่าปลาทองรันชู (Ranchu) ไม่ได้แค่น่ารักอย่างเดียว แต่มันมีประวัติยาวนานและเป็นที่รักของคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่ยุคเอโดะ...

แฟรนนี่แอนด์ซูอี้: การแสวงหาความหมายของชีวิตในโลกที่เสแสร้ง
คุณเคยมีช่วงเวลาที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับทุกสิ่งรอบตัวไหม? เบื่อแม้แต่กับตัวเองที่ต้องแสดงเป็นคนที่ไม่ใช่ตัวเอง...

The Catcher in the Rye: ผจญภัยในโลกที่สุดแสนจะ "Phony"
ผมอยากชวนทุกคนมาคุยเรื่องหนังสือที่คงจะทำให้หลายคนนึกถึงตัวเองในช่วงวัยรุ่น หนังสือที่ออกมาตั้งแต่ปี...

เกาะผีดุ: ตำนานสาวชุดแดง 'อิมาโจะ' แห่งเกาะต้องสาป
ผมเริ่มอ่าน เกาะผีดุ ด้วยความรู้สึกว่า เออ มันก็คงเป็นนิยายผีทั่วไปที่มีเกาะ มีคำสาป มีหญิงชุดแดง แต่ไม่ครับ...

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน: 'ซีเรียส แบล็ค' กำลังมา
ถ้าผมเคยให้แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 10 คะแนน หนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน...
OTHER ARTICLES

สต็อกโฮล์ม ซินโดรม: เหตุใดแกะถึงได้หลงรักหมาป่า
คงจะเป็นเรื่องแปลกถ้าในสถานการณ์สุดอันตราย บางคนกลับรู้สึกเห็นอกเห็นใจต่อผู้ที่คุกคามชีวิตของตัวเอง ดูเหมือนเป็นเรื่องที่หลุดมาจากหนังใช่ไหมครับ?...

Brandon Mayfield: เมื่อลายนิ้วมือโกหก และความยุติธรรมถูกทดสอบ
ในช่วงหลังเหตุการณ์ 11 กันยายน ความหวาดกลัวต่อการก่อการร้ายทำให้สหรัฐอเมริกาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กฎหมายใหม่...

Dunning-Kruger Effect: ยิ่งรู้น้อย ยิ่งคิดว่าตัวเองเก่ง
เคยสังเกตไหมว่าบางคนที่รู้แค่นิดเดียวแต่ชอบพูดเหมือนรู้ทุกอย่าง? หรือบางคนที่เพิ่งเรียนรู้อะไรใหม่ได้นิดเดียว...

SB7: ถ้าการตลาดที่เป็นอยู่มันน่าเบื่อ ใช้พล็อตหนังเล่าแทนก็สิ้นเรื่อง
คุณเคยดูหนังเรื่องหนึ่งแล้วอินแบบหยุดคิดถึงไม่ได้ไหมครับ? บางเรื่องไม่ได้มีเอฟเฟกต์อลังการหรือดาราชื่อดัง...

Brand Story: หยุดทำการตลาดให้ซับซ้อน เพราะมันต้องเข้าใจง่าย
หากคุณกำลังสงสัยว่าทำไมแคมเปญการตลาดที่วางแผนมาอย่างดีของคุณถึงไม่ได้ผล ลองถอยกลับมาดูอีกครั้งว่าคุณกำลังทำให้มัน...

Absurdism: หากโลกไร้ความหมาย เรายังควรลุกจากเตียงอยู่ไหม?
เคยมีช่วงเวลาไหมที่คุณตื่นขึ้นมาแล้วถามตัวเองว่า “ทำไมต้องทำแบบนี้ทุกวัน?” หรือ “ชีวิตคืออะไรกันแน่?”...