Fahrenheit 451 โดย Words Publishing

ฟาห์เรนไฮต์ 451: โลกที่หนังสือต้องถูกเผาทำลายให้เป็นเถ้าถ่าน

ลองนึกภาพว่าเมื่อหนังสือทุกเล่มในโลกใบนี้กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และมีคนที่ทำหน้าที่เผามันทิ้งทุกวัน นั่นคือโลกที่ Ray Bradbury พาเราไปสัมผัสใน “ฟาห์เรนไฮต์ 451”

ไม่มีหนังสือ = ความสุข

Fahrenheit 451 เวอร์ชันล่าสุดในปี 2018
Fahrenheit 451 เวอร์ชันล่าสุดในปี 2018
กาย มอนทาก ตัวเอกของเรื่อง เป็นนักผจญเพลิงที่ไม่ได้ดับไฟ แต่จุดไฟเผาหนังสือและบ้านที่ซ่อนหนังสือไว้ ในตอนแรกมอนทากดูเหมือนจะพอใจกับงานของตัวเอง เขาเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำคือการปกป้องสังคมจากความยุ่งเหยิงที่หนังสือนำมาให้
 
แต่แล้วชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับ แคลริส สาวน้อยเพื่อนบ้านที่ทำให้เขาได้เห็นโลกในมุมมองใหม่ เธอเป็นคนที่ไม่เหมือนใครในสังคมนั้น เธอเป็นคนที่ยังคิด คนที่ยังตั้งคำถาม และที่สำคัญเธอคือคนที่ยังมีความสุขแบบจริง ๆ
 
ยิ่งอ่านผมก็ยิ่งขนลุก สิ่งที่ Bradbury เขียนไว้เมื่อปี 1953 กลับเป็นจริงในยุคของเรา เราเห็นคนเดินไปมาด้วยการจ้องหน้าจอมือถือ เราเห็นคนที่เลือกรับรู้ข่าวสารแค่ไม่กี่บรรทัดแทนการอ่านบทความยาวๆ เราเห็นคนที่หลีกเลี่ยงการอ่านหนังสือเพราะว่ามันดูน่าเบื่อ

หัวใจหลักของเรื่องคือการต่อสู้ระหว่างการควบคุมสื่อกับเสรีภาพในการคิด รัฐบาลในหนังสือไม่ได้แบนหนังสือด้วยความชั่วร้าย แต่เพราะต้องการให้ทุกคนมีความสุข พวกเขาเชื่อว่าหนังสือทำให้คนคิดมาก และการคิดมากทำให้เกิดความความทุกข์

"จะเผาอะไรก็เผาได้ แต่เผาความคิดนั้นไม่ง่าย"

Fahrenheit 451 ในปี 1966
Fahrenheit 451 ในปี 1966
ประโยคนี้เป็นหัวใจของเรื่องทั้งหมด เราเห็นรัฐบาลพยายามทำลายหนังสือ แต่สิ่งที่พวกเขาทำลายไม่ได้คือความทรงจำและความคิดของคนที่เคยอ่านหนังสือเหล่านั้น

การอ่าน “ฟาห์เรนไฮต์ 451” ในยุคนี้เหมือนกับการมองกระจกเงา เราเห็นสิ่งที่เรากำลังเป็น และสิ่งที่เราอาจจะกลายเป็น Ray Bradbury เน้นยำเรื่องการต่อต้านเสพสื่อทำให้เราหยุดคิด เขาอยากให้เราใช้สื่อเป็นเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ ไม่ใช่เป็นทางหลบหนีจากความจริง

เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

Fahrenheit 451 โดย Words Publishing
Fahrenheit 451 โดย Words Publishing
หนังสือเล่มนี้จึงเป็นทั้งคำเตือน เป็นกระจกส่องสังคม และเป็นแรงบันดาลใจให้เรารักการอ่าน รักการคิด ในยุคที่ข้อมูลล้นโลก ความรู้กลับขาดแคลน ในยุคที่เราต่อต้านข่าวปลอม แต่เรากลับไม่อยากอ่านข่าวจริง

ผมอยากแนะนำให้ทุกคนอ่านหนังสือเล่มนี้มาก โดยเฉพาะในยุคที่เราอยู่ เพราะมันจะทำให้เราเห็นว่า การปกป้องเสรีภาพในการคิดและการอ่านนั้นสำคัญแค่ไหน และเราต้องระวังไม่ให้ความสะดวกสบายมาทำลายความสามารถในการคิดของเราเอง
ในยุคที่ข้อมูลล้นโลก ความรู้กลับขาดแคลน ในยุคที่เราต่อต้านข่าวปลอม แต่เรากลับไม่อยากอ่านข่าวจริง
- Read Again and Agian
Facebook
X (Twitter)
Copy Link

OTHER BOOKS

OTHER ARTICLES