เอ็ดเวิร์ด เบอร์เนย์ส "บิดาแห่งวงการประชาสัมพันธ์และโฆษณาชวนเชื่อ"

เอ็ดเวิร์ด เบอร์เนย์ส: จิตวิทยาเปลี่ยนโลกผ่านควันบุหรี่

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมเมื่อเราเห็นผู้หญิงถือบุหรี่ เราจึงมักนึกถึงภาพความเป็นอิสระ และความเป็นตัวของตัวเอง?

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้อ่านเรื่องราวที่เปิดเผยให้เห็นว่าภาพจำที่ฝังลึกในจิตใต้สำนึกของเราทั้งหมดนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นผลงานชิ้นเอกของชายคนหนึ่งที่เขียนประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยเพียงแค่การ ‘จุดประกายไฟ’

เอ็ดเวิร์ด เบอร์เนย์ส

เอ็ดเวิร์ด เบอร์เนย์ส "บิดาแห่งวงการประชาสัมพันธ์และโฆษณาชวนเชื่อ"
เอ็ดเวิร์ด เบอร์เนย์ส "บิดาแห่งวงการประชาสัมพันธ์และโฆษณาชวนเชื่อ"
เรื่องราวนี้เริ่มต้นในปี 1929 เป็นวันที่โลกได้เห็นการเกิดขึ้นของหนึ่งในแคมเปญการตลาดที่อันตรายและอัจฉริยะที่สุดในประวัติศาสตร์ เอ็ดเวิร์ด เบอร์เนย์ส ชื่อนี้อาจฟังดูไม่คุ้นหู แต่ในปี 1962 เขาได้รับการยกย่องให้เป็น “บิดาแห่งวงการประชาสัมพันธ์และโฆษณาชวนเชื่อ” และนั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

สิ่งที่ทำให้เบอร์เนย์สพิเศษคือ เขาเป็นหลานชายของ ซิกมุนด์ ฟรอยด์ นักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่ และเบอร์เนย์สได้ศึกษาทฤษฎีจิตวิทยาของลุงตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องจิตวิทยาฝูงชนและจิตวิเคราะห์ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในสิ่งที่เขาเรียกว่า “การประชาสัมพันธ์กับผู้บริโภค” (Consumer Public Relations)

คบไฟแห่งอิสรภาพ

เด็กสาวพากันสูบบุหรี่ในงานพาเหรดวันอีสเตอร์ของนิวยอร์กซิตี้ในปี 1929
เด็กสาวพากันสูบบุหรี่ในงานพาเหรดวันอีสเตอร์ของนิวยอร์กซิตี้ในปี 1929
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ จอร์จ วอชิงตัน ฮิลล์ ประธานบริษัทอเมริกัน โทแบกโก คอมพานี เข้ามาหาเบอร์เนย์สด้วยปัญหาธุรกิจ ที่ในตอนนั้นผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่สูบบุหรี่ เพราะสังคมมองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ฮิลล์ต้องการคำแนะนำว่าจะทำอย่างไรให้ผู้หญิงสูบบุหรี่กันมากขึ้น

เบอร์เนย์สได้ติดต่อนักจิตวิเคราะห์ชื่อ อับราฮัม บริลล์ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมาว่า ผู้หญิงที่เป็นเฟมินิสต์มองว่าบุหรี่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านและการปลดแอกจากการกดขี่ของผู้ชาย จุดนี้แหละครับ คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เบอร์เนย์สคิดแผนที่จะเปลี่ยนโลก
 
สิ่งที่เบอร์เนย์สทำต่อมาคือ เขาเล็งเป้าไปที่งานสังคมที่ใหญ่ที่สุดในฤดูกาลนั้น นั่นคือ งานพาเหรดวันอีสเตอร์ของนิวยอร์กซิตี้ในปี 1929 งานนี้มีความพิเศษเพราะมีไฮโซมาร่วมงานจำนวนมาก โดยเฉพาะบรรดาพ่อแม่ที่พาลูกสาววัยรุ่นมาเปิดตัวในแวดวงสังคมเป็นครั้งแรก

เด็กสาวเหล่านี้เปรียบเสมือน อินฟลูเอนเซอร์ของยุคนั้น หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ปารีส ฮิลตัน และ คิม คาร์เดเชียน ของศตวรรษที่ 20 เบอร์เนย์สเริ่มต้นด้วยการแจ้งสื่อก่อนวันพาเหรดว่า ผู้หญิงในขบวนเรียกร้องสิทธิสตรีจะจุด ‘คบไฟแห่งอิสรภาพ’ ในงานพาเหรด เขามอบซองบุหรี่ลักกี้ สไตรก์ (Lucky Strike) ให้กับเด็กสาวที่จะเปิดตัวในงานและผู้หญิงคนอื่นๆ พร้อมบอกให้พวกเธอจุดบุหรี่ตอนข้ามถนน

เมื่อถึงวันที่ 1 เมษายน 1929 เบอร์เนย์สไปรอถ่ายรูปที่ถนนสายนั้น และสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานข่าวงานพาเหรดไว้ว่า “กลุ่มเด็กสาวประกาศ ‘อิสรภาพ’ ผ่านม่านควันบุหรี่” ภาพของเด็กสาวที่ยืนอย่างภาคภูมิใจ ถือบุหรี่ในมือราวกับธงประจำชาติ แพร่กระจายไปทั่วประเทศ เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสาวที่ประกาศอิสรภาพและความแข็งแกร่ง ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น

ความปรารถนาที่แท้จริงของเราเอง

แคมเปญนี้ทำให้ผู้หญิงสูบบุหรี่มากขึ้นถึง 7 เปอร์เซ็นต์
แคมเปญนี้ทำให้ผู้หญิงสูบบุหรี่มากขึ้นถึง 7 เปอร์เซ็นต์
ผลลัพธ์ของแคมเปญนี้มีพลังมหาศาลเกินคาด ในปีนั้นเพียงปีเดียว มีผู้หญิงสูบบุหรี่มากขึ้นถึง 7 เปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ การเปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อผู้หญิงที่สูบบุหรี่ไปตลอดกาล เบอร์เนย์สไม่ได้แค่ขายบุหรี่ เขาขายความฝัน ขายอัตลักษณ์ ขายความรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร เขาทำให้การสูบบุหรี่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอิสระ ของความกล้าหาญ ของการต่อสู้เพื่อสิทธิ

สิ่งที่น่ากลัวคือ แม้เราจะรู้ความจริงแล้ว แต่ภาพจำเหล่านั้นยังคงฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา นี่คือพลังของการประชาสัมพันธ์ที่ดี ยิ่งในยุคที่เราล้อมรอบไปด้วยโซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์ เราต้องเรียนรู้ที่จะแยกแยะระหว่างความปรารถนาที่แท้จริงของเราเอง กับความปรารถนาที่ถูกปลูกฝังโดยผู้อื่นให้ออก

คำถามที่สำคัญไม่ใช่ว่าเราต้องการอะไร แต่เป็นว่าใครเป็นคนทำให้เราต้องการสิ่งนั้น และเพื่ออะไร
เอ็ดเวิร์ด เบอร์เนย์ส ทำให้การสูบบุหรี่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอิสระ ของความกล้าหาญ ของการต่อสู้เพื่อสิท
- Read Again and Agian
Facebook
X (Twitter)
Copy Link

OTHER BOOKS

OTHER ARTICLES